- บิณฑบาตบ้านหลังเดียวที่เชิงเขา ไม่ต้องคิดมากเรื่องอาหาร มีอะไรก็ฉันตามนั้น
- ลงเขาเวลา ๐๘.๐๐ น. เพื่อมารับบิณฑบาต ทำให้มีเวลาช่วงเช้าอันสงบเย็น (ต่างจากการอยู่ในเมืองซึ่งต้องเดินบิณฑบาตในหมู่บ้านอันแสนวุ่นวาย ทั้งผู้คน ยวดยาน หอกระจายเสียง ฯ ทำให้พลาดช่วงเวลาดีๆ ในช่วงเช้า)
- ไม่ให้โยมบอกข่าวแก่ชาวบ้านในหมู่บ้าน จึงได้พักโดยไม่มีใครมารบกวน
ขออนุโมทนา กับครอบครัวโยมน้อย ที่อุปถัมภ์ดูแลตลอดทั้ง ๑๐ วัน
ครั้งนี้มีนิมิต ๓ เรื่อง
๑. ฝันว่าอุบาสิกาสองคน แต่ชุดขาวเหมือนพราหมณ์ มาหาแล้วบอกว่า ท่านอาจารย์ปฏิปทามั่นคงดี ไม่มีใครทำอะไรได้ แต่จะดีกว่านี้ในด้านลาภสักการะถ้าเอารูปปั้นพญานาคนี้ไปบูชา (พญานาคหลายเศียร เป็นหยกสีเขียว ขนาดเล็ก) เราก็ตอบว่า ไม่สนใจอยากได้ลาภยศ พอใจตามมีตามได้ ไม่ได้ต้องการสร้างบารมีด้านนี้ เราก็เลยไม่รับเอามา
(พอกลับมาไม่กี่วัน ก็มีโยมเอาพระเครื่องมาให้วัด เราไม่ได้เหลียวดูหรอก แค่บอกเขาไปว่าเราเป็นพระอยู่แล้ว จะเอามาทำไม จึงไม่ได้รับไว้)
๒. ฝันว่ามีคนนำเด็กมาหา เด็กนั้นดูท่าทางดีใจที่ได้พบเรา เราก็จำได้ว่าเด็กนั้นเราเคยช่วยไว้ในอดีต
(ต่อมาใกล้เข้าพรรษา ก็มีโยมพาหลานมาฝากบวชจำพรรษาด้วย ขอให้เราช่วยอบรมสั่งสอนให้ ถ้าเราไม่รับ ก็จะเอาไปฝากที่วัดบ้านอื่นซึ่งอยู่ไกล เราก็เลยเอื้อเฟื้อรับให้ เพราะบ้านเขาอยู่ใกล้วัด พ่อตายปีที่แล้ว แม่เขาก็สุขภาพไม่ดี ปกติแม่เขาก็ใส่บาตรทุกวัน)
๓. นิมิตด้านปัญญา ปรากฎคำว่า "สงบใจ..ใกล้ธรรม, ใจสงบ พบธรรม, ถึงธรรม ถึงนิพพาน"
หลักปฏิบัติที่ได้พิเศษ คือ
- ความสงบเกิดจากฐานแห่งปีติในกุศลจิต
อย่างมีวันหนึ่งนัดช่างมาทำระบบประปาตากฝนทั้งวัน ช่วยเขาทำงานและเดินขึ้น-ลงเขาไม่รู้กี่รอบ ขนาดช่างกลับบ้านไปก็ยังเป็นไข้กันหลายคน ส่วนเราปกติเป็นภูมิแพ้อยู่แล้วน่าจะอาการแย่ แต่คืนนั้นทั้งคืนกลับไม่รู้สึกเหนื่อย ไม่ง่วง ภาวนาได้อย่างสงบปลอดโปร่งมาก เช้ามาก็ไม่มีอาการภูมิแพ้สักนิด
- เห็นคุณค่าความสงบวิเวกที่เอื้อเฟื้อต่อการเจริญภาวนา จึงคิดจะสร้าง "วิหารสงบใจ" บนลานหินว่างๆ ที่อยู่ใกล้กับศาลา
ศาลาปลีกวิเวก มองจากเขาฝั่งตรงข้าม
บรรยากาศยามเช้าอันสงบเย็น แสงสีน้ำเงินยามอรุณที่ปกติเราพลาดโอกาสสัมผัส
เครื่องมือฝึกสติในการไปมา ต้องระวังรอบคอบ เผลอเหม่อลอยไม่ได้
เที่ยวนี้ได้พบทั้งงูทับสมิงคลา(งูทำทาน), งูจงอาง, งูสิงห์ดำ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น